บันทึกอนุทิน
ครั้งที่ 6
วันจันทร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557
ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
ประเภทที่ 4 เด็กที่มีความบหพร่องทางการพูดและภาษา(Children With Speech and Language Disorders)
เด็กที่มีวามบกพร่องทางการพูด
หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการผิดปกติในด้านความชัดเจน ในการปรับปรุงแต่ละระดับและคุณภาพของเสียง จังหวะ และขั้นตอนของเสียงพูด
1.ความบกพร่องในการปรุงเสียง (Articulator Disorders)
-เสียงบางส่วนของคำหายไป ''ความ'' เป็น "คาม"
-ออกเสียงของตัวอื่นแทนตัวที่ถูกต้อง กิน เป็น จิน , กวาด เป็น ฟาด
-เพิ่มเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่ถูกต้องลงไปด้วย หกล้ม เป็น หก กะ ล้ม
-เสียงเพี้ยนหรือแปล่ง แล้ว เป็น แล่ว
2.ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด (Speech Flow Disorders)
-พูดไม่ถูกตามลำดับขั้นตอน ไม่เป็นไปตามโครงสร้างของภาษา
-การเว้นวรรคตอนไม่ถูกต้อง
-อัตราการพูดเร็วหรือช้าเกินไป
-จังหวะของเสียงพูดผิดปกติ
-เสียงพูดขาดความต่อเนื่อง สละสลวย
3.ความบกพร่องของเสียงพูด (Voice Disorders)
-ความบกพร่องของระดับเสียง
-เสียงดังหรือค่อยเกินไป
-คุณภาพของเสียงไม่ดี
ความบกพร่องทางภาษา
หมายถึง การขาดความสามารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูด และ/หรือไม่สามารถแสดงความคิดออกมาเป็นถ้อยคำได้
1.การพัฒนาด้านภาษาช้ากว่าวัย (Delayed Language)
-มีความยากลำบากในการใช้ภาษา
-มีความผิดปกติของไวยากรณ์และโครงสร้างของประโยค
-ไม่สามารถสร้างประโยคได้
-มีความบกพร่องทางเชาว์ปัญา อารมณ์ สมองผิดปกติ
-ภาษาที่ใช้เป็นภาษาห้วนๆ
2.ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง หรือโดยทั่วไปเรียก Dysphasia หรือ Aphasia
-อ่านไม่ออก
-เขียนไม่ได
-สะกดคำไม่ได้
-ใช้ภาษาสับสนยุ่งเหยิง
-จับคำหรือประโยคไม่ได้
-ไม่เข้าใจคำ
-พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้
Gerstmann's syndrome
-ไม่รู้ชื่อนิ้ว
-ไม่รู้ซ้ายขวา
-คำนวณไม่ได้
-เขียนไม่ได้
-อ่านไม่ออก
ลักษณะของเด็กบกพร่องการพูดและภาษา
-ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรชาติ ร้องไห้เบาๆ และอ่อนแรง
-ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10 เดือน
-ไม่พูดภายใน 2 ขวบ
-หลัง 3 ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กยังฟังเข้าใจยาก
-ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
-หลัง 5 ขวบเด็กยังใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา
-มีปัญหาในการสื่อความหมายพูดตพกุกตะกัก
-ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
ประเภทที่ 5 เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ (Children with Physical and Health Imoairments)
-เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
-อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป
-เจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง
-มีปัญหาทางระบบประสาท
-มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
โรคลมชัก Epilepsy
-เป็นลักษณะที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง
-มีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติและมากเกินไป ปล่อยออกมาจากเซลล์สมองพร้อมกัน
1.การชักในช่วงเวลาสั้นๆ Petit Mal
-อาการเหม่อนิ่งเป็นเวลา 5-10 นาที
-มีการกระพริบตาหรืออาจมีเคี้ยวปาก
-เมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก
-เด็กอาจจะนั่งเฉยหรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย
2.การชักแบบรุนแรง Grand Mal
-เมื่อเกิดอาการชัก เด็กจะไม่ส่งเสียง หมดความรู้สึก ล้มลง กล้ามเนื้อเกร็ง เกิดขึ้นราว 2-5 นาที จากนั้นจะหายนอนหลับไปชั่วครู่
3.อาการชักแบบ Partial Complex
-มีอาการประมาณไม่เกิน 3 นาที
-เหม่อนิ่ง
-เหมือนรู้สึกตัวแต่ไม่รับรู้และไม่ตอบสนองต่อคำพูด
-หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
4.อาการไม่รู้สึกตัว Focal Partial
-เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กจะไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบางอย่างที่ตัวเองไม่รู้ เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า เดินเหม่อลอย แต่ไม่มีอาการชัก
5.ลมบ้าหมู Grand Mal
-เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึก ในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐาน ในกรณีเด็กมีอาการชัก
-จับเด็กนอนตะแคงขวาพื้นราบที่ไม่มีของแข็ง
-ไม่จับยึดตัวเด็กขณะชัก
-หาหมอนหรือสิ่งนุ่มๆรองศีรษะ
-ดูดน้ำลาย เสมหะ เศษอาหารออกจากปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
-จัดเสื้อผ้าเด็กให้หลวม
-ห้ามนำวัตถุใดๆใส่ในปาก
-ทำการหายใจโดยวิธีการเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ
ซี.พี. Cerebral Palsy
-การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทพิการ หรือเป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูกทำลายก่อนคลอด ระหว่างคลอด หรือหลังคลอด
-การเคลื่อนไหว การพูด พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพีมีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่างๆ ของามองแตกต่างกัน
1.กลุ่มแข็งเกร็ง Spastic
-Spastic hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก
-Spastic diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
-Spastic paraplegia อัมพาตครึ่งท่อนล่าง
-Spastic quadriplegia อัมพาตทั้งต้ว
2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเอง Athetoid , Ataxia
-Athetoid อาการขยุกขยิกช้าๆ หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของเด็ก เด็กบางรายอาจมีคอเอียง ปากเบี้ยวร่วมกัน
-Ataxia มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
3.กลุ่มอาการแบบผสม Mixed
กล้ามเนื้ออ่อนแรง Muscular Distrophy
-เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ เสื่อมสลายตัว
-เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
-จะมีความพิการซ้อนในระยะหลัง คือ ความจำแย่ลง สติปัญญาเสื่อม
โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ Orthopedic
-ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก กระดูกข้อสะโพกเคลื่อน อัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจาก กระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด
-ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการด้วยโรคติดเชื่อ เช่น วัณโรค กระดูกหลังโกง กระดูกผุ เป็นแผลเรื้อรังมีหนอง เศษกระดูกผุ
-กระดูกหัก ข้อเคลื่อน ข้ออักเสบ
โปลิโอ Poliomyelitis
-มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา
-ยืนไม่ได้ หรือปรับสภาพให้ยืนได้ด้วยอุปกรณ์เสริม
โรคระบบทางเดินหายใจ
โรคเบาหวาน
โรคหัวใจ
โรคมะเร็ง
เลือดไหลไม่หยุด
โรคกระดูกอ่อน
โรคศีรษะโต
แขนขาด้วนแต่กำเนิด
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
-มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
-ท่าเดินคล้ายกรรไกร
-เดินขากะเผลก หรืออึดอาดเชื่องช้า
-ไอเสียงแห้งบ่อยๆ
-มักบ่นเจ็บหน้าอก บ่นปวดหลัง
-หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจางบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว
-หกล้มบ่อยๆ
-หิวและกระหายน้ำอย่างเกินกว่าเหตุ