วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2557




บันทึกอนุทิน
ครั้งที่ 7
วันจันทร์ ที่่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557



เนื้อหาที่เรียน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (Children with Learning Disabilities)

      เรียกย่อๆ ว่า L.D.(Learning Disabilities) เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้เฉพาะอย่าง ไม่นับรวมเด็กที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อยทางการเรียน เด็กที่มีปัญหาเนื่องจากความพิการ หรือความบกพร่องทางร่างกาย

สาเหตุของ LD

  • ความผิดปกติของการทำงานของสมองที่ไม่สามารถถอดรหัสตัวอักษรออกมาได้(เชื่อมโยงภาพตัวอักษรเข้ากับเสียงไม่ได้)
  • กรมมพันธุ์
1. ด้านการอ่าน (Reading Disorder)

  • อ่านหนังสือช้า ต้องสะกดทีละคำ
  • อ่านออกเสียงไม่ชัด ออกเสียงผิด หรืออาจข้ามคำที่อ่านไม่ได้ไปเลย
  • ไม่เข้าใจเนื้อหาที่อ่าน หรือจับใจความสำคัญไม่ได้ 
เช่น
จาน    :::::> จาง/บา
ง่วง    :::::> ม่วง/ม่ง/ง่ง
เลย    :::::> เล
โบราณ :::::> โบรา
หนังสือ :::::> สือ
อรัญ   :::::> อะรัย

ลักษณะของเด็ก LD ด้านการอ่าน
  • อ่านช้า อ่านคำต่อคำ ต้องสะกดคำจึงจะอ่านได้
  • อ่านออกเสียงไม่ชัด
  • เดาคำเวลาอ่าน
  • อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ อ่านผิดประโยคหรือผิดตำแหน่ง
  • อ่านโดยไม่เน้นคำ หรือเน้นข้อความบางตอน
  • อ่านเสียงวรรณยุกต์ไม่ได้
  • ไม่รู้ความหมายเรื่องที่อ่าน
  • เล่าเรื่องที่อ่านไม่ได้ จับใจความสำคญไม่ได้
ด้านการเขียน (Writing Disorder)
  • เขียนตัวหนังสือผิด สับสนเรื่องการม้วนหัวตัวอักษร เช่น จาก ม เป็น น หรือจาก ภ เป็น ถ เป็นต้น
  • เขียนตามการออกเสียง เช่น ประเภท เขียนเป็น ประเพด
  • เขียนสลับ เช่น สถิติ เขียนเป็น สติถิ
ลักษณะของเด็ก LD ด้านการเขียน
  • ลากเส้นวนๆ ไม่รู้ว่าจะม้วนหัวเข้าในหรือออกนอก ขีดวนๆ ซ้ำๆ
  • เรียงอักษรผิด เช่น สถิติ เขียนเป็น สติถิ
  • เขียนพยัญชนะหรือตัวเลขสลับกัน เช่น ม-น,ภ-ถ,ด-ค,พ-ผ,b-d,p-q,6-9
  • เขียนพยัญชนะ ก-ฮ ไม่ได้ แต่บอกให้เขียนเป็นตัวๆได้
  • เขียนพยัญชนะ หรือ ตัวเลขกลับด้าน คล้ายมองจากกระจกเงา
  • เขียนคำตามตัวสะกด เช่น เกษตร เป็น กะเสด
  • จับปากกาหรือดินสอแน่นมาก
  • สะกดคำผิด โดยเฉพาะคำพ้องเสียง ตัวสะกดแม่เดียวกัน ตัวการันต์
  • เขียนหนังสือช้าเพราะกลัวสะกดผิด
  • เขียนไม่ตรงบรรทัด ขนาดตัวอักษรไม่เทากัน ไม่เว้นขอบ ไม่เว้นช่องไฟ
  • ลบบ่อยๆ เขียนทับคำเดิมหลายครั้ง
ด้านการคิดคำนวณ (Mathematic Disorder)
  • ตัวเลขผิดลำดับ
  • ไม่เข้าใจเรื่องการทดเลข หรือการยืมเลขเวลาทำการบวกหรือลบ
  • ไม่เข้าใจเลขหลักหน่วย สิบ ร้อย
  • แก้โจทย์ปัญหาเลขไม่ได้
ลักษณะของเด็ก LD ด้านการคำนวณ
  • ไม่เข้าใจค่าของตัวเลข เช่น หลัดหน่วย สิบ ร้อย พัน หมื่น... เป็นเท่าใด
  • นับเลขไปข้างหน้าหรือถอยหลังไม่ได้
  • คำนวณบวกลบคูณหารโดยการนับนิ้ว
  • จำสูตรคูณไม่ได้
  • เขียนเลขกลับกัน เช่น 13 เป็น 31
  • ทดไม่เป็นหรือยืมไม่เป็น
  • ตีโจทย์เลขไม่ออก
  • คำนวณเลขจากซ้ายไปขวาแทนที่จะทำจากขวาไปซ้าย
  • ไม่เข้าใจเรื่องเวลา
หลายๆด้านรวมกัน
อาการที่มักเกิดขึ้นกับ LD
  • แยกขนาด สี และรูปร่างไม่ออก
  • มีปัญหาเกี่ยวกับเวลา
  • เขียน/อ่านตัวอักษรสลับซ้ายขวา
  • งุ่มง่ามการประสานงานของกล้ามเนื้อไม่ดี
  • การประสานงานของสายตา-กล้ามเนื้อไม่ดี
  • สมาธิไม่ดี (เด็ก LD มร้อยละ 15-20 มีสมาธิสั้น ADHD ร่วมด้วย)
  • เขียนตามแบบไม่ค่อยได้
  • ทำงานช้า
  • การวางแผนงานและจัดระบบไม่ดี
  • ฟังคำสั่งสับสน
  • คิดแบบนามธรรมหรือคิดแก้ปัญหาไม่ค่อยดี
  • ความคิดสับสนไม่เป็นขั้นตอน
  • ความสำระยะสั้น/ยาวไม่ดี
  • ถนัดซ้ายหรือถนัดทั้งซ้ายและขวา
  • ทำงานสับสนไม่เป็นขั้นตอน

ออทิสติก (Autistic)
     หรือออทิสซึ่ม (Autism) เด็กที่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่สามารถเข้าใจคำพูด ความรู้สึกหรือความต้องการของผู้อื่น ไม่สามารถสื่อสารกับคนรอบข้างและสังคมได้ เด็กออทิสติกแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตน จะติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต
"ไม่สบตา ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว"
ลักษณะของเด็กออทิสติก

  • อยู่ในโลกของตนเอง
  • ไม่เข้าไปหาใครเพื่อให้ปลอบ
  • ไม่เข้าไปในกลุ่มเพื่อน
  • ไม่ยอมพูด
  • เคลื่อนไหวแบบซ้ำๆ

ดูหน้าแม่                   :::::>       ไม่มองตา
หันไปตามเสียง              :::::>       เหมือนหูหนวก
เรียนรู้คำพูดเพิ่มเติม          :::::>       เคยพูดได้ต่อมาหยุดพูด
ร้องเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้าใกล้  :::::>      ไม่สนใจคนรอบข้าง










วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557





บันทึกอนุทิน
ครั้งที่ 6
วันจันทร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557



ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
       ประเภทที่ 4 เด็กที่มีความบหพร่องทางการพูดและภาษา(Children With Speech and Language Disorders)
              เด็กที่มีวามบกพร่องทางการพูด
                     หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการผิดปกติในด้านความชัดเจน ในการปรับปรุงแต่ละระดับและคุณภาพของเสียง จังหวะ และขั้นตอนของเสียงพูด
                     1.ความบกพร่องในการปรุงเสียง (Articulator Disorders)
                        -เสียงบางส่วนของคำหายไป ''ความ'' เป็น "คาม"
                        -ออกเสียงของตัวอื่นแทนตัวที่ถูกต้อง กิน เป็น จิน , กวาด เป็น ฟาด
                        -เพิ่มเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่ถูกต้องลงไปด้วย หกล้ม เป็น หก กะ ล้ม
                        -เสียงเพี้ยนหรือแปล่ง แล้ว เป็น แล่ว
                     2.ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด (Speech Flow Disorders)
                        -พูดไม่ถูกตามลำดับขั้นตอน ไม่เป็นไปตามโครงสร้างของภาษา
                        -การเว้นวรรคตอนไม่ถูกต้อง
                        -อัตราการพูดเร็วหรือช้าเกินไป
                        -จังหวะของเสียงพูดผิดปกติ
                        -เสียงพูดขาดความต่อเนื่อง สละสลวย
                     3.ความบกพร่องของเสียงพูด (Voice Disorders)
                        -ความบกพร่องของระดับเสียง
                        -เสียงดังหรือค่อยเกินไป
                        -คุณภาพของเสียงไม่ดี

          ความบกพร่องทางภาษา 
                    หมายถึง การขาดความสามารถที่จะเข้าใจความหมายของคำพูด และ/หรือไม่สามารถแสดงความคิดออกมาเป็นถ้อยคำได้
                    1.การพัฒนาด้านภาษาช้ากว่าวัย (Delayed Language)
                       -มีความยากลำบากในการใช้ภาษา
                       -มีความผิดปกติของไวยากรณ์และโครงสร้างของประโยค
                       -ไม่สามารถสร้างประโยคได้
                       -มีความบกพร่องทางเชาว์ปัญา อารมณ์ สมองผิดปกติ
                       -ภาษาที่ใช้เป็นภาษาห้วนๆ
                    2.ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง หรือโดยทั่วไปเรียก Dysphasia หรือ Aphasia
                      -อ่านไม่ออก
                      -เขียนไม่ได
                      -สะกดคำไม่ได้
                      -ใช้ภาษาสับสนยุ่งเหยิง
                      -จับคำหรือประโยคไม่ได้
                      -ไม่เข้าใจคำ
                      -พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้
                   Gerstmann's syndrome
                      -ไม่รู้ชื่อนิ้ว
                      -ไม่รู้ซ้ายขวา
                      -คำนวณไม่ได้
                      -เขียนไม่ได้
                      -อ่านไม่ออก
            ลักษณะของเด็กบกพร่องการพูดและภาษา
                -ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรชาติ ร้องไห้เบาๆ และอ่อนแรง
                -ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10 เดือน
                -ไม่พูดภายใน 2 ขวบ
                -หลัง 3 ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กยังฟังเข้าใจยาก
                -ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
                -หลัง 5 ขวบเด็กยังใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา
                -มีปัญหาในการสื่อความหมายพูดตพกุกตะกัก
                -ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย


       ประเภทที่ 5 เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ (Children with Physical and Health Imoairments)
             -เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
             -อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป
             -เจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง
             -มีปัญหาทางระบบประสาท
             -มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
             โรคลมชัก Epilepsy
                 -เป็นลักษณะที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง
                 -มีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติและมากเกินไป ปล่อยออกมาจากเซลล์สมองพร้อมกัน
                  1.การชักในช่วงเวลาสั้นๆ Petit Mal
                        -อาการเหม่อนิ่งเป็นเวลา 5-10 นาที
                        -มีการกระพริบตาหรืออาจมีเคี้ยวปาก
                        -เมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก
                        -เด็กอาจจะนั่งเฉยหรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย
                  2.การชักแบบรุนแรง Grand Mal
                        -เมื่อเกิดอาการชัก เด็กจะไม่ส่งเสียง หมดความรู้สึก ล้มลง กล้ามเนื้อเกร็ง เกิดขึ้นราว 2-5 นาที จากนั้นจะหายนอนหลับไปชั่วครู่
                  3.อาการชักแบบ Partial Complex
                        -มีอาการประมาณไม่เกิน 3 นาที
                        -เหม่อนิ่ง
                        -เหมือนรู้สึกตัวแต่ไม่รับรู้และไม่ตอบสนองต่อคำพูด
                        -หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
                   4.อาการไม่รู้สึกตัว Focal Partial
                        -เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กจะไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบางอย่างที่ตัวเองไม่รู้ เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า เดินเหม่อลอย แต่ไม่มีอาการชัก
                   5.ลมบ้าหมู Grand Mal
                        -เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึก ในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
            การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐาน ในกรณีเด็กมีอาการชัก
                 -จับเด็กนอนตะแคงขวาพื้นราบที่ไม่มีของแข็ง
                 -ไม่จับยึดตัวเด็กขณะชัก
                 -หาหมอนหรือสิ่งนุ่มๆรองศีรษะ
                 -ดูดน้ำลาย เสมหะ เศษอาหารออกจากปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
                 -จัดเสื้อผ้าเด็กให้หลวม
                 -ห้ามนำวัตถุใดๆใส่ในปาก
                 -ทำการหายใจโดยวิธีการเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ
               ซี.พี. Cerebral Palsy
                    -การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทพิการ หรือเป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูกทำลายก่อนคลอด ระหว่างคลอด หรือหลังคลอด
                    -การเคลื่อนไหว การพูด พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพีมีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่างๆ ของามองแตกต่างกัน
                    1.กลุ่มแข็งเกร็ง Spastic
                          -Spastic hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก
                        -Spastic diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
                        -Spastic paraplegia อัมพาตครึ่งท่อนล่าง
                        -Spastic quadriplegia อัมพาตทั้งต้ว
                   2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเอง Athetoid , Ataxia
                        -Athetoid อาการขยุกขยิกช้าๆ หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของเด็ก เด็กบางรายอาจมีคอเอียง ปากเบี้ยวร่วมกัน
                        -Ataxia มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
                   3.กลุ่มอาการแบบผสม Mixed
                      กล้ามเนื้ออ่อนแรง Muscular Distrophy
                              -เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ เสื่อมสลายตัว
                              -เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
                              -จะมีความพิการซ้อนในระยะหลัง คือ ความจำแย่ลง สติปัญญาเสื่อม
                     โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ Orthopedic
                              -ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก กระดูกข้อสะโพกเคลื่อน อัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจาก กระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด
                             -ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการด้วยโรคติดเชื่อ เช่น วัณโรค กระดูกหลังโกง กระดูกผุ เป็นแผลเรื้อรังมีหนอง เศษกระดูกผุ
                             -กระดูกหัก ข้อเคลื่อน ข้ออักเสบ
                     โปลิโอ Poliomyelitis
                             -มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา
                             -ยืนไม่ได้ หรือปรับสภาพให้ยืนได้ด้วยอุปกรณ์เสริม
                     โรคระบบทางเดินหายใจ
                     โรคเบาหวาน
                     โรคหัวใจ
                     โรคมะเร็ง
                     เลือดไหลไม่หยุด
                     โรคกระดูกอ่อน
                     โรคศีรษะโต
                     แขนขาด้วนแต่กำเนิด
              ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
                     -มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
                     -ท่าเดินคล้ายกรรไกร
                     -เดินขากะเผลก หรืออึดอาดเชื่องช้า
                     -ไอเสียงแห้งบ่อยๆ
                     -มักบ่นเจ็บหน้าอก บ่นปวดหลัง
                     -หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจางบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว
                     -หกล้มบ่อยๆ
                     -หิวและกระหายน้ำอย่างเกินกว่าเหตุ